โรคโคลิค
โรคโคลิคในเด็กทารก หรือในเด็กทั่วไป ที่มีอายุตั้งแต่แรกเกิดไปจนถึงอายุ 3-4 เดือน สามารถพบได้ทั่วไป แม้ทารกจะมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ก็สามารถมีอาการของโรคโคลิคได้ แม้ว่าโรคโคลิคในเด็กจะเป็นโรคที่ไม่ได้มีความรุนแรง แต่ก็ทำให้คุณพ่อคุณแม่หลายคนที่ยังไม่รู้จักโรคโคลิคดี มีความกังวลใจถึงสุขภาพของลูกน้อย วันนี้ Kidminute จึงขอหยิบเรื่อง โรคโคลิค มาอธิบายเพิ่มเติมให้คุณพ่อคุณแม่ได้รู้จักกับโรคและอาการของโรคโคลิคในทารกนี้ให้มากขึ้นกันค่ะ
ทารกโคลิค คืออะไร
โรคโคลิค คือ โรคที่เกินขึ้นในเด็กทารกที่มีอายุราว ๆ 2-4 สัปดาห์ หรือมักพบมากในเด็กทารกอายุ 3 เดือนแรก พบได้ทั้งในทารกเพศชายและทารกเพศหญิง โดยโรคโคลิคจะมีอาการร้องไห้รุนแรงและร้องไห้กินเวลานาน จนทำให้คุณพ่อคุณแม่หลายคนเป็นกังวลใจอย่างมาก อาการโคลิค หรือ colic ในต่างประเทศพบได้ประมาณร้อยละ 5-25
โรคโคลิคในทารกเกิดจากอะไร
แม้ว่าโรคโคลิคจะเป็นโรคที่คุณพ่อคุณแม่ได้ยินกันมามาก แต่สาเหตุที่แท้จริงของอาการโคลิค ยังไม่สามารถสรุปได้อย่างแน่ชัด อย่างไรก็ตามเชื่อว่าอาการโรคโคลิคที่เกิดขึ้นในเด็กวัยแรกเกิดน่าจะมีหลาย ๆ สาเหตุร่วมกันเกี่ยวกับ ระบบทางเดินอาหาร ระบบประสาท และการพัฒนาการในทารก ยกตัวอย่างเช่น
- การที่ทารกกลืนก๊าซเข้าไปลำไส้มากจนเป็นผลให้แน่นท้อง ไม่สบายตัว
- การหดเกร็งของกล้ามเนื้อในระบบทางเดินอาหาร
- ภาวะกรดไหลย้อน
- ทารกมีอาการปวดท้องเนื่องจากฮอร์โมนในร่างกายมีการปรับเปลี่ยน
- ทารกถูกรบกวนหรือถูกกระตุ้นจากปัจจัยภายนอกมากเกินไป เช่น เสียง แสงไฟ เป็นต้น
- ความแปรปรวน ปัญหาทางอารมณ์
- ปัญหาจากการป้อนนม ได้แก่ ป้อนมากเกินไป น้อยเกินไป หรือป้อนผิดวิธี
- ด้านระบบประสาทและพัฒนาการพบว่า ทารกกลุ่มนี้อยู่ในกลุ่มที่ร้องไห้มากกว่าทารกทั่วไป เมื่อเวลาผ่าน จะมีพัฒนาการดีขึ้นอาการก็จะหายไปได้เอง
- ปัญหาทางสุขภาพอื่น ๆ เช่น กรดไหลย้อน โรคติดเชื้อของระบบทางเดินปัสสาวะ แพ้นมวัว ผื่นผ้าอ้อม
💡 เทคนิคเพิ่มเติม 💡
โรคโคลิคในเด็กสามารถป้องกันในระดับเบื้องต้นได้ ซึ่งคุณแม่ส่วนใหญ่จะนิยมใช้ขวดนมเด็กป้องกันโคลิคกัน ซึ่งคุณแม่คุณพ่อสามารถคลิกอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้เลยว่าควรเลือกขวดนมแบบไหนดี ยี่ห้อไหนดี ที่นี่ 👇
📌 [ 4 วิธีเลือกขวดนมแบบไหนดีที่สุด ] ให้เหมาะกับการกินนมของเด็กทารกแรกเกิด
📌 รีวิว 7 ขวดนมเด็ก ยี่ห้อไหนดี ที่คุณแม่นั้นนิยมใช้มากที่สุดในประเทศไทย
คลิกซื้อขวดนมป้องกันโคลิคเด็กร้องเป็นโรคโคลิคควรไปพบแพทย์เมื่อไหร่
ต้องบอกก่อนว่า อาการโคลิค สามารถหายไปได้เองหลังจากลูกมีอายุประมาณ 3-4 เดือนค่ะ หรือบางคนอาจใช้เวลามากกว่านั้น เมื่อพบว่าลูกน้อยมีอาการของโรคโคลิค ให้สังเกตอาการอื่น ๆ อย่างใกล้ชิด หากมีอาการอื่นดังเช่นต่อไปนี้ร่วมด้วยให้รีบพาลูกไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยเพิ่มเติมทันที คือ
- มีอาการหายใจผิดปกติ หรือหยุดหายใจเป็นพัก ๆ
- มีอาการชัก
- มีไข้ตัวร้อน วัดไข้ได้สูงกว่า 38°C สำหรับทารกที่อายุต่ำกว่า 3 เดือน หรือมีไข้สูงกว่า 39°C สำหรับทารกที่อายุ 3-6 เดือน
- อาเจียน หรืออุจจาระผิดปกติเช่น อุจาระเป็นเลือด เป็นต้น
- มีอาการกระสับกระส่าย ไม่สบายตัว
- ตัวอ่อนปวกเปียกเมื่ออุ้มขึ้น
- ไม่ยอมกินนม
- กระหม่อมบุ๋ม
- ตัวซีดเขียว
หากคุณพ่อคุณแม่พบว่าลูกน้อยมีอาการร้องไห้งอแงคล้าย โรคโคลิค แต่มีอาการอย่างใดอย่างหนึ่งเหล่านี้ประกอบด้วย แนะนำให้รีบพาลูกไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยโรคแอบแฝงอื่น ๆ ที่อาจส่งผลให้ลูกมีอาการร้องไห้ไม่หยุดดังกล่าว เช่น โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ โรคลำไส้อักเสบ ฃ
อาการโรคโคลิค
อาการโดยทั่วไปของโรคโคลิค มักแสดงอาการออกมาดังนี้
- ร้องไห้อย่างหนักโดยไม่ทราบสาเหตุ
- ร้องเสียงดัง เสียงแหลม และกินเวลานาน
- เด็กที่มีอาการโคลิคมักร้องไห้ประมาณวันละ 3 ชั่วโมง มากกว่าสัปดาห์ละ 3 วัน และมักมีอาการโคลิคยาวนานอย่างน้อย 3 สัปดาห์หรือบางรายอาจนานกว่านั้น
- ร้องไห้ในช่วงเวลาเดิม ๆ เป็นประจำ โดยพบมากในช่วงเวลาเย็น หรือช่วงหัวค่ำ
อ่านเพิ่มเติม : อาการโคลิค ในเด็กทารก มีลักษณะเป็นอย่างไร พร้อมวิธีการรักษาอาการแบบละเอียด
โรคโคลิคมีวิธีการรักษาอย่างไร
สำหรับวิธีการรักษาโรคโคลิค ต้องบอกว่าไม่มีวิธีการรักษาโดยตรงค่ะ เนื่องจากยังไม่มีสาเหตุที่แน่ชัดของอาการ และเด็กจะหายได้เองเมื่อมีอายุ 3-4 เดือน ถ้าแพทย์ทำการวินิจฉัยแล้วว่าลูกน้อยมีอาการของโรคโคลิค หากทราบสาเหตุ อาจรักษาด้วยการให้ยา เช่น ยาลดแก็สในกระเพาะอาหารและลำไส้ เพื่อช่วย ลดอาการท้องอืด เป็นต้น
อย่างไรก็ตามเนื่องจากโคลิคเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ก็คงต้องบอกให้คุณพ่อคุณแม่เตรียมพร้อมรับมือกับอาการร้องไห้งอแงของลูกน้อย ซึ่งต้องใช้ความอดทนในการดูแล และผ่านช่วงเวลานี้ไปด้วยกันให้ได้นั่นเอง
สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่พอจะทำได้ ก็จะเป็นการพยายามลดสาเหตุที่อาจจะทำให้ลูกน้อยมีอาการโคลิค หรือสาเหตุที่สร้างความไม่สบายเนื้อไม่สบายตัวทั้งหลายของของลูก อาจจะช่วยบรรเทาอาการร้องไห้งอแงของเด็กลงได้บ้างไม่มากก็น้อยค่ะ
โรคโคลิค อาจเป็นเรื่องที่พ่อแม่หลายคนกังวลใจ แต่ก็ต้องยอมรับว่าสามารถเกิดขึ้นได้ และหากพบว่าลูกมีอาการดังกล่าว ก็ขอให้คุณพ่อคุณแม่ใช้ความอดทนดูแลเอาใจใส่ลูกน้อย ถ้าโชคดีอาการก็อาจจะหายได้ในไม่กี่สัปดาห์ Kidminute ก็ขอเป็นกำลังใจให้คุณพ่อคุณแม่ทุกคนด้วยนะคะ
———-
ติดต่อเราผ่านช่องทางต่างๆ
โทร : 082-699-1659 (ฝ่ายขาย)
Line : @Kidminute
Facebook Page : Kid Minute Fanpage
Facebook Chat : Kid Minute
ช่องทางอื่นๆ : https://rakbaby.com/contact-us/
Pingback: อาการโคลิค ในเด็กทารกเป็นอย่างไร รุนแรงไหม มีวิธีการรับมืออย่างไรบ้าง ?
Pingback: [ 7 วิธีแก้ ทารกหลับไม่สนิท ] ต้องทำอย่างไรให้ลูกหลับง่าย ไม่กวนใจคุณแม่