เด็กเป็นเบาหวานได้ไหม โรคเบาหวานในเด็กอันตรายหรือไม่

เบาหวานในเด็ก คืออะไร เด็กเป็นเบาหวานได้ไหม มีลักษณะอาการ และวิธีป้องกันอย่างไรบ้าง

เบาหวานในเด็ก

โรคเบาหวานในเด็ก หากฟังดูแล้วคุณพ่อคุณแม่อาจคิดว่า เป็นไปไม่ได้ ! เพราะเดิมทีเรามักพบโรคนี้ในผู้ใหญ่ที่มีอายุแล้ว แต่ในปัจจุบันแนวโน้มของผู้ป่วยโรคเบาหวานที่อายุน้อยมีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ สาเหตุก็มาจากหลายปัจจัย ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือพฤติกรรมการกิน และตัวเลือกในการรับประทานอาหารที่เปลี่ยนไป บอกเลยว่า เบาหวานในเด็ก ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไปแล้ว สำหรับบทความนี้เราจะไปดูกันค่ะว่า เบาหวานในเด็ก คืออะไร มีลักษณะอาการอย่างไรบ้าง ?

โรคเบาหวานในเด็ก คืออะไร

เบาหวานในเด็ก คือ ภาวะผิดปกติในเด็กที่พบว่ามีปริมาณน้ำตาลในกระแสเลือดสูงกว่าเกณฑ์ โดยเบาหวานในเด็กมีสาเหตุมาจากความผิดปกติของการสร้างอินซูลินหรือการทำงานของอินซูลิน

อินซูลิน (Insulin) คือ ฮอร์โมนชนิดหนึ่งที่มีหน้าที่รักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้เป็นปกติ เมื่ออินซูลินมีความบกพร่องก็จะทำให้เกิดโรคเบาหวานได้ 

ชนิดของโรคเบาหวานในเด็ก

โรคเบาหวานในเด็กแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้

1.โรคเบาหวานในเด็กประเภทที่ 1 (type 1 diabetes) 

เบาหวานในเด็กชนิดนี้เกิดขึ้นได้กับเด็กที่แม้ว่าจะอายุยังน้อย ผู้ป่วยมักมีน้ำหนักน้อยไม่อ้วน สาเหตุเกิดจากตับอ่อนไม่สามารถผลิตฮอร์โมนอินซูลินได้เพียงพอ ทำให้ร่างกายไม่สามารถดูดซึมน้ำตาลในเลือดไปใช้เป็นพลังงานได้ ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น การรักษาเด็กที่เป็นเบาหวานประเภทนี้จะใช้วิธีการฉีดอินซูลินเข้าสู่ร่างกายเท่านั้น 

2.โรคเบาหวานในเด็กประเภทที่ 2 (type 2 diabetes) 

เบาหวานเด็กประเภทนี้มักพบในผู้ป่วยที่เข้าสู่ช่วงวัยรุ่นไปแล้วค่ะ โดยมักพบปัจจัยเสี่ยงสูงในกลุ่มเด็กที่มีภาวะโรคอ้วนหรือภาวะโภชนาการเกิน หรือการเกิดเบาหวานเด็กชนิดนี้ก็อาจเป็นผลมาจากปัจจัยทางพันธุกรรม สำหรับผู้ป่วยเป็นเบาหวานประเภทที่ 2 ร่างกายสามารถผลิตฮอร์โมนอินซูลินได้เพียงพอ แต่ไม่สามารถนำมาใช้งานได้เพราะเซลล์ในร่างกายไม่ตอบสนองต่อฮอร์โมนหรือดื้อต่อฮอร์โมน 

สำหรับการรักษา เบาหวานเด็ก ประเภทนี้ต้องรักษาด้วยยากินเพื่อลดระดับน้ำตาลในเลือด หรือยากระตุ้นการทำงานของอินซูลิน บางรายต้องใช้การฉีดอินซูลิน

เด็กเป็นเบาหวานได้ไหม

โรคเบาหวาน เป็นโรคที่สามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัยค่ะ และแน่นอนว่าสามารถเกิดขึ้นกับเด็กที่มีอายุน้อย ๆ ได้เช่นกัน โดยโรคเบาหวานในเด็กประเภทที่หนึ่งมักเกิดขึ้นจากความผิดปกติทางพันธุกรรมส่งผลให้ตับอ่อนผลิตฮอร์โมนอินซูลินออกมาได้ไม่เพียงพอ มักพบได้ในเด็กอายุน้อย 

ส่วนเบาหวานเด็กประเภทที่ 2 ปัจจุบันพบว่ามีอัตราการป่วยที่เพิ่มขึ้น และพบในเด็กที่มีอายุน้อยลงไปเรื่อย ๆ เนื่องจาก ปัจจัยเสี่ยงของโรคเบาหวานเด็กมักเกิดขึ้นจากภาวะโภชนาการเกิน หรือโรคอ้วน ซึ่งปัจจุบันพบว่าเด็กเป็นโรคอ้วนกันมากขึ้นเพราะอาหารการกินที่ไม่ถูกหลักโภชนาการนั่นเอง  

อาการเบาหวานในเด็ก

อาการของโรคเบาหวานในเด็ก มักแสดงอาการแตกต่างกันระหว่างเบาหวาน 2 ประเภท ดังนี้

โรคเบาหวานในเด็กประเภทที่ 1 ผู้ป่วยมักแสดงอาการ

  • เด็กที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานประเภทที่ 1 มักมีรูปร่างผอม 
  • กระหายน้ำมาก ดื่มน้ำบ่อย
  • ปัสสาวะเยอะ ปัสาวะบ่อย
  • รู้สึกหิวบ่อย ทำให้ทานอาหารเก่ง แต่น้ำหนักกลับลดลงหรือไม่เพิ่มขึ้น
  • มีอาการอ่อนเพลีย ไม่มีแรง 
  • อาจมีภาวะรุนแรงจะพบภาวะเลือดเป็นกรด เรียกว่าภาวะ Diabetic Ketoacidosis (DKA) ส่งผลให้มีอาการคลื่นไส้อาเจียน หายใจหอบ หรืออาจช็อกหมดสติ และอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต

โรคเบาหวานในเด็กประเภทที่ 2 ผู้ป่วยมักแสดงอาการ

  • มักพบเบาหวานประเภทที่ 2 ในเด็กที่มีรูปร่างอ้วน มีภาวะโภชนาการเกิน หรือโรคอ้วน
  • ผิวหนังบริเวณต้นคอมีลักษณะหนา และมีสีผิวดำคล้ำ
  • กระหายน้ำมาก ดื่มน้ำบ่อย และมักปวดปัสสาวะบ่อยโดยเฉพาะตอนกลางคืน คล้ายกับโรคเบาหวานในเด็กชนิดที่ 1 
  • ถ้ามีบาดแผล แผลจะหายช้า 
  • มีปัญหาด้านการมองเห็น ภาพเบลอ มองไม่ชัดเจน

เบาหวานในเด็ก และ เบาหวานในผู้ใหญ่ แตกต่างกันอย่างไร

1.ชนิดของโรคเบาหวานที่พบในเด็กส่วนมาก เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 1 แต่ในผู้ใหญ่จะพบเบาหวานชนิดที่ 2 มากกว่า 

2.การดูแลผู้ป่วยโรคเบาหวานเด็ก มักมีความซับซ้อนมากกว่า เนื่องจากเด็กอยู่ในช่วงของการเจริญเติบโตอยู่ตลอด ร่างกาย ภาวะทางอารมณ์ รวมถึงสารและฮอร์โมนต่าง ๆ ในร่างกายมีความเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ 

3.ผู้ป่วยเบาหวานตั้งแต่เด็ก มีโอกาสที่จะพบภาวะแทรกซ้อนในอนาคตมากกว่าเนื่องจากมีภาวะของโรคเป็นระยะเวลานานกว่า โดยเฉพาะผู้ป่วยเด็กที่ไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดี 

การป้องกันโรคเบาหวานในเด็ก

เนื่องจากโรคเบาหวานเด็กชนิดที่ 1 มักเกิดขึ้นเองจากพันธุกรรม ปัจจุบันจึงยังไม่สามารถป้องกันโรคเบาหวานประเภทนี้ได้ แต่สามารถลดความเสี่ยงหรือโอกาสในการเกิดโรคเบาหวานเด็กประเภทที่ 2 ได้ ดังนี้

1.ในวัยทารก ให้ลูกทานนมแม่ เพราะนมแม่มีสารอาหารที่มีคุณประโยชน์ต่อร่างกายทารกเป็นอย่างมาก

2.ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ เนื่องจากภาวะอ้วนเป็นปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้เด็กเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้ 

3.รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ 

4.หลีกเลี่ยงหรือควบคุมปริมาณขนมหวานหรืออาหารที่ไม่มีประโยชน์เช่น น้ำหวาน น้ำอัดลม

5.ให้ลูกออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หรือหากิจกรรมให้ลูกได้ขยับร่างกายเพื่อกระตุ้นการทำงานของระบบต่าง ๆ ภายใน และช่วยให้มีสุขภาพที่แข็งแรง

อ่านเพิ่มเติม : สุดยอด 10 ผัก ผลไม้บำรุงน้ำนม สำหรับคุณแม่หลังคลอดโดยเฉพาะ รับรองว่าเห็นผลชัวร์ 100%

โรคเบาหวานในเด็ก ถือเป็นเรื่องใกล้ตัวที่คุณพ่อคุณแม่ต้องให้ความใส่ใจเป็นพิเศษค่ะ ถ้าสามารถป้องกันและควบคุมปัจจัยเสี่ยงได้ตั้งแต่แรก ก็จะช่วยลูกน้อยไม่ต้องเสี่ยงเป็นโรคเบาหวานเรื้อรังไปตลอดชีวิตเลย

———-
ติดต่อเราผ่านช่องทางต่างๆ
โทร : 082-699-1659 (ฝ่ายขาย)
Line : @Kidminute
Facebook Page : Kid Minute Fanpage
Facebook Chat : Kid Minute
ช่องทางอื่นๆ : https://rakbaby.com/contact-us/

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *